บทความ
ออกเดินทางอย่างมั่นใจ กับทัวร์คุณภาพที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เราพาคุณสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ที่คุ้มค่าและน่าจดจำทุกเส้นทาง
กำแพงเมืองจีน: มหัศจรรย์สถาปัตยกรรมแห่งอารยธรรม
กำแพงเมืองจีน หรือที่รู้จักกันในภาษาจีนว่า "ฉางเฉิง" (長城) ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความเพียรพยายาม และอัจฉริยภาพทางวิศวกรรมของอารยธรรมจีนโบราณ ทอดตัวยาวหลายพันกิโลเมตรผ่านภูเขา ทะเลทราย และที่ราบ กำแพงแห่งนี้ยืนหยัดเป็นประจักษ์พยานถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,000 ปีของแผ่นดินมังกร และยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาสัมผัสความอลังการของมัน
ประวัติศาสตร์อันยาวนานและจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่
กำแพงเมืองจีนไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในคราวเดียว แต่เป็นผลรวมของการก่อสร้างและเชื่อมต่อกำแพงป้องกันของแคว้นต่างๆ เข้าด้วยกันตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang) กษัตริย์ผู้รวบรวมแผ่นดินจีนเป็นหนึ่งเดียว พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้เชื่อมต่อกำแพงป้องกันเหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางเหนือ โดยเฉพาะพวกมองโกล การก่อสร้างกำแพงยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องในสมัยราชวงศ์ต่างๆ เช่น ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty) และราชวงศ์หมิง (Ming Dynasty) ซึ่งเป็นช่วงที่กำแพงมีความสมบูรณ์และยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจุดประสงค์หลักคือการป้องกันการโจมตี การควบคุมเส้นทางการค้า และเป็นเสมือนปราการป้องกันชายแดนอันสำคัญยิ่งของอาณาจักร
ความอลังการทางสถาปัตยกรรม
กำแพงเมืองจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่กำแพงอิฐธรรมดา แต่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบต่างๆ ที่ซับซ้อน ได้แก่ ตัวกำแพง (Wall Section) สร้างจากวัสดุหลากหลาย ตั้งแต่ดินอัดหิน กรวด ไปจนถึงอิฐ และหินแกรนิต หอสังเกตการณ์ (Watchtowers) ตั้งอยู่เป็นระยะๆ ตลอดแนว เพื่อเป็นที่พักของทหาร เก็บเสบียง และเป็นจุดสังเกตการณ์ข้าศึก รวมถึงส่งสัญญาณควันไฟแจ้งเหตุ ป้อมปราการ (Fortresses) ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ มักจะเป็นศูนย์กลางการบัญชาการและเป็นที่ตั้งของกองกำลังขนาดใหญ่ และประตูเมือง (Gateways) เป็นทางเข้าออกที่ได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา
ช่วงยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว
กำแพงเมืองจีนมีหลายส่วนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยแต่ละส่วนก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ช่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ ปาต้าหลิง (Badaling) เป็นส่วนที่ได้รับการบูรณะอย่างดีเยี่ยม และเข้าถึงได้ง่ายที่สุดจากกรุงปักกิ่ง มู่เถียนยวี่ (Mutianyu) อีกหนึ่งส่วนที่สวยงามและได้รับความนิยม ไม่แออัดเท่าปาต้าหลิง และจินซานหลิ่ง (Jinshanling) และ ซือหม่าไถ (Simatai) สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าและต้องการสัมผัสกำแพงที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและไม่ได้รับการบูรณะมากนัก
ความสำคัญในปัจจุบัน
กำแพงเมืองจีนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) ไม่ใช่เพียงแค่แหล่งท่องเที่ยว แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีน เป็นเครื่องเตือนใจถึงความพยายามในการสร้างชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นหลังถึงความสามารถอันไร้ขีดจำกัดของมนุษย์ การได้ยืนอยู่บนกำแพงเมืองจีนและมองออกไปสุดลูกหูลูกตา เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง เป็นการตระหนักถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่และความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมที่สร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์นี้ขึ้นมาได้อย่างแท้จริง
